เมนู

ปฏิโลมหรือโดยอนุโลม หรือโดยนัยมีอารมณ์อย่างหนึ่งคั่นหรือสองอย่างคั่น
เป็นต้น. และแม้รูปารมณ์ทั้งหลายก็ไม่เกิดโดยกำหนดแม้นี้ว่า จิตมีสีเขียว
เป็นอารมณ์ก่อน ภายหลังจึงมีสีเหลืองเป็นอารมณ์ แต่ปรารภอารมณ์ใด ๆ
ก็ได้ อธิบายว่า จิตปรารภรูปารมณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง ในบรรดารูปารมณ์
ทั้งหลายมีสีเขียวและสีเหลืองเป็นต้นเกิดขึ้น. แม้ในสัททารมณ์เป็นต้น ก็นัยนี้
แหละ นี้เป็นการประกอบความอธิบายไว้อย่างหนึ่งก่อน ยังมีข้อความที่ควร
แนะนำอื่นอีก ดังต่อไปนี้.
รูปเป็นอารมณ์ของจิตนี้ มีอยู่ เพราะเหตุนั้น จิตนี้จึงชื่อว่า มีรูป
เป็นอารมณ์
ฯลฯ ธรรมเป็นอารมณ์ของจิตนี้มีอยู่ เพราะเหตุนั้น จิตนี้จึง
ชื่อว่า มีธรรมเป็นอารมณ์. พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นตรัสว่า จิตมีรูปารมณ์
ฯลฯ หรือมีธรรมารมณ์เกิดขึ้น ด้วยประการฉะนี้แล้ว จึงตรัสอีกว่า ก็หรือว่า
จิตปรารภอารมณ์ใด ๆ เกิดขึ้น ดังนี้ เนื้อความแห่งพระดำรัสที่ตรัสว่า จิต
ปรารภอารมณ์ใด ๆ เกิดขึ้นดังนี้นั้น พึงทราบโดยนัยที่กล่าวแล้วในรูปเป็นต้น
เหล่านั้นเถิด.
ส่วนในมหาอรรถกถา มีข้อความกล่าวไว้เพียงเท่านี้ว่า พระผู้มี
พระภาคเจ้าตรัสเยวาปนกนัยไว้ ไม่มีอะไรใหม่ คือเป็นอารมณ์ที่ถือเอาแล้ว
ในหลังนั่นแหละ แล้วตรัสพระดำรัสนี้ เพื่อกล่าวปรารภรูป ฯลฯ หรือ
ปรารภธรรม หรือปรารภอารมณ์นี้หรืออารมณ์นั้น ดังนี้.

อธิบายคำว่าธรรมมีผัสสะเป็นต้น



คำว่า ตสฺมึ สมเย นี้เป็นคำปฏินิทเทส (คือการวกกลับมาอธิบายอีก)
โดยกำหนดสมัยที่ทรงยกขึ้นแสดงโดยไม่แน่นอน เพราะฉะนั้น บัณฑิตพึง